วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ธรรมชาติเอาคืน

ตอนนี้ที่อังกฤษน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะภาคกลาง เขาบอกว่าเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่สุดในรอบ ๖๐ ปี (หรืออะไรประมาณนั้น) ในขณะเดียวกันทางยุโรปตะวันออกก็เจอภัยร้อนภัยแล้ง เขาบอกว่านักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวตามป่าตามภูเขาก็เจอไฟป่า ต้องหนีตายลงมาตามชายหาด

อาทิตย์ก่อนเราดูทีวี เขามีข่าวอากาศโคตรร้อนที่อิตาลี ร้อนขนาดตอกไข่ใส่กระโปรงหน้ารถแล้วสุก พี่สาวเราบอกว่ากระโปรงหน้ารถมันก็ร้อนอยู่แล้ว เพราะเครื่องยนต์ร้อน เออ... ก็เป็นไปได้ แต่เขามีภาพว่ามันร้อนขนาดยางมะตอยที่ราดถนนละลาย สาวอิตาลีใส่รองเท้าส้นเข็ม เดินไปแล้วส้นรองเท้าจมลงไปในพื้นถนน อันนี้จะบอกว่าไม่ร้อนก็ไม่ไหวแล้ว

ในขณะเดียวกันก็มีข่าวหิมะตกที่ประเทศบราซิล เป็นครั้งแรกในรอบ ๑๒ ปี คนออกมาเล่นหิมะกันยกใหญ่ ก็น่าตื่นเต้นดี แต่เรารู้สึกว่าน่ากลัวอยู่ในที เพราะรู้สึกว่าอากาศมันชักจะวิปริตเกินขนาด (นึกถึงหนังเรื่อง The day after tomorrow) เมื่อปีที่แล้วประเทศไทยก็อ่วมอรทัยกับอุทกภัย แล้วเมื่อต้นปีก็เจอไฟป่า (บวกกับการเผาป่าแบบไม่มีความรู้) จนเชียงใหม่เชียงรายและอีกหลายๆ จังหวัดกลายเป็นเมืองในหมอก (ควันพิษ)

ตอนที่ An Inconvenient Truth ออกมา คนก็ตื่นตัวเรื่องโลกร้อน เวลาเกิดภัยพิบัติตามที่ต่างๆ คนก็วิตกกังวล และเริ่มจะหันมาใส่ใจธรรมชาติ แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปความรู้สำนึกก็ชักจางไป เราอยากให้พวกสื่อมวลชนออกมาย้ำกันบ่อยๆ คนจะได้ไม่ลืมดูแลธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

วันก่อนเราไปกินสลัดซิซเลอร์ เพื่อนก็บอกว่า ตอนนี้โลกร้อน เอาจานเดิมไปตักสลัดดีกว่า (จะได้ไม่เปลืองต้องล้างจานเยอะ) ทุกวันนี้เราก็ไม่ค่อยได้เปิดแอร์นอน เปิดหน้าต่าง แล้วก็เปิดพัดลมแทน มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ประหยัดตรงไหนได้ก็ประหยัด ลดตรงไหนได้ก็ลด อะไรที่ไม่จำเป็นก็อย่าไปใช้ ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อยหลายๆ คนทำมันก็เยอะขึ้นเอง

เรื่องประหยัดเรื่องใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า อย่าไปคิดว่าของเขาของเรา บางคนอยู่บ้านประหยัด แต่พอไปที่ทำงานหรือตามที่สาธารณะ ก็ไม่ใส่ใจ นึกว่าที่เสียเปล่าฟุ่มเฟือยไปมันไม่ใช่ของของเรา ไม่เดือดร้อน แต่จริงๆ แล้วมันเป็นของประเทศของเรา เป็นของโลกของเรา อย่าทำร้ายโลก ทำร้ายธรรมชาติมากไปกว่านี้ เพราะเวลาธรรมชาติเอาคืน เขาเอาคืนทีเดียวหมด ไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นใครหน้าไหน ประเทศไหน เดือดร้อนกันไปทั้งโลกนั่นแหละนะ

14 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ยังคิดคอมเม้นต์คมๆไม่ออก ขอฝากไว้ก่อนอ่ะ แล้วจะตามมาถอนทีหลังนะค้าบบบบ...

nitbert กล่าวว่า...

ขอบคุณคุณ mymoney มากๆ ค่ะ ที่มาช่วยคอมเมนต์
ไม่ต้อง "คมๆ" หรอกค่ะ แค่บอกว่าอ่านแล้ว คนเขียนก็ได้ใจแล้วค่ะ (เวลาเขียนไปๆ แล้วเงียบ มันน่าใจหาย เหมือนโยนหินลงบ่อ... ไม่เห็นแม้แต่รอยน้ำกระเพื่อม)

แต่ถ้าอยากคอมเมนต์คมๆ จริงๆ วงเล็บว่า "มีด" หรือ "ดาบ" มาด้วยก็ได้ (อิอิ) แต่ "หอก" ไม่เอานะ เพราะคนเขียนกำลังหาอยู่ (ไม่ฮา)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่ "คม" ก็ไม่ "คม"

ความฝันอันสูงสุดของผมคือ ได้เห็นวันสิ้นโลก จะด้วยอุกาบาต ฟ้าถล่ม ดินทลาย น้ำท่วมฟ้า ปลากินดาว อะไรก็ได้ครับ ขอให้ได้เห็นเท่านั้นแหละ จะสุขสมอารมณ์หมายเป็นอย่างยิ่ง นอนตายตาหลับ (แต่คงยากแฮะ เพราะดูตามอายุแล้วคงอีกไม่กี่ปี คงไม่ทันสิ้นโลกแน่เลย)

ปล.สำหรับเรื่องคอมเม้นต์ คุณ nitbert อย่าไปซีเรียสกับมันเลยครับ ผมเขียนบล็อกมาเป็นวรรคเป็นเวร รอให้คนมาคอมเม้นต์จนเหงือกแห้งแล้วแห้งอีก จนทำใจไปแล้ว ปล่อยไปตามสบาย คิดเสียว่า เขียนเพราะอยากจะเขียน อยากจะเผยแพร่ความคิด ถ้ามีคนคลิกมาอ่านก็ถือว่าเป็นกำไร แต่ถ้ามีคนคอมเม้นต์ก็เท่ากับ "กำไรสองเล่งงงงงง" (แต่โชคดีหน่อยว่าช่วงหลังๆนี้มีคนใจดีแบบคุณ nitbert มาคอมเม้นต์ให้เรื่อยๆ บล็อกผมก็เลยไม่เหงาน่ะครับ)

nitbert กล่าวว่า...

อืมม์ คุณ mymoney นี่คิดแปลกๆ เนาะ คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่า ดีใจที่เกิดก่อน เลยไม่ต้องอยู่เผชิญวันสิ้นโลก...

แต่ถ้าเราได้อยู่เห็นวันนั้นกันจริงๆ (วันที่ฝัน(ร้าย?)ของคุณ mymoney จะเป็นจริง) พวกเราไม่น่าจะมีเวลาพอจะคิดว่า ว้าว.. เราได้เป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ แต่มันน่าจะเป็นแบบวาบเดียว หาย/ตายหมดโลก (ประมาณเดียวกับสึนามิ แผ่นดินไหว น้ำป่าไหลหลาก ฯลฯ ที่มาในเวลาที่ไม่ได้เตรียมตัว) จะมีเวลาทันได้หลับตาก่อนตายหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยอ่ะนะ -_-"

ปล. เรื่องคอมเมนต์ไม่ได้ซีเรียสหรอกค่ะ ขอแอบแซวคนที่เข้ามาอ่านแต่ไม่ยอมแสดงตัวอ่ะค่ะ ก่อนเขียนบล็อก ก็เขียนไดฯมาหลายปีแล้ว คนอ่านส่วนใหญ่มักไม่ค่อยกระโตกกระตาก ย่องเข้ามาอ่านเงียบๆ แล้วก็ย่องออกไปเงียบๆ ค่ะ อิอิ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โห ..คุยกันเป็นคุ้งเป็นแควเลย อิอิ

เราว่าโลกกำลังสิ้นใจ(ทีละน้อย)อยู่แล้วหละ เหมือนโลกเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายประมาณนั้น
แล้วหละ ตอนนี้ส่วนต่างๆของร่างกาย มันคงพยายามเต็มที่ หมัดผู้อาศัยตัวกระจ้อยร่อยบนโลก เลยเพิ่งเข้าใจ หมัดหลายตัวอาจจะกำลังคิดหาทางสละโลก ไปดาวอื่น ทำนองเดียวกับหาแหล่งสูบเลือดใหม่อยู่ก็ได้นะนี่
(เอาเข้าไป - จินตนาการ)

แต่เห็นด้วยอย่างอ่อนแรง --วันนี้ ที่นี่ร้อนลิ้นห้อยเลย ตอนเปิดแอร์ยังนึกถึงตอนหนึ่งของบล๊อกอยู่ว่า
เฮ้ย เรามันส่วนหนึ่ง ของพวกทำลายโลกหรือนี่ แต่ยอม..ไม่ไหวแล้ว ร้อนอิ๊บอ๋ายเลย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ปลูกต้นไม้สิครับ คนละต้น เดือนเว้นเดือน สดชื่นดี วันเกิด วันตาย วันแต่ง วันหย่า วันรับปริญญา วันพระ วันหยุด ปลูกได้หมด

ไม่เปลือง แค่เปื้อนนิดหน่อย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อ้า...น้องเอ้มาถึงนี่เลยเหรอเนี่ย

nitbert กล่าวว่า...

กุ้ง เดี๋ยวนี้เวลาเราร้อนๆ จะเปิดแอร์ทีไร ก็จะเหมือนกับมี "หอกแห่งสามัญสำนึก" มาปักอยู่ตรงกระโหลกด้านหลัง แบบว่า เฮ้อ... ตรูทำให้โลกร้อนเพิ่มขึ้นนะเนี่ย ตอนนี้กำลังอยากจะเปลี่ยนรถใหม่ ก็ชั่งใจอยู่ เพราะรุ่นที่อยากซื้อมันปล่อย CO2 ออกมาเยอะกว่าอีกรุ่นหนึ่ง เหมือนมีเทวดา กับ ซาตาน มานั่งทับอยู่บนบ่าทุกครั้งที่คิดจะทำอะไร... เหมือนเป็นโรคจิตเลยเรา :P

คุณ golb (เดาว่าน่าจะเป็น น้อง golb แฮะ อิอิ) ปลูกต้นไม้ก็ดีนะคะ โดยเฉพาะไม้ผล ทั้งช่วยโลกทั้งช่วย(ท้อง)เรา :)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คุณ nitbert อยากเปลี่ยนรถ แล้วไม่อยากทำให้โลกร้อน ต้อง toyota prius สิครับ hybrid hybrid...

ว่าแต่ สถานการณ์เศรษฐกิจอย่างนี้ยังเตรียมออกรถอีกนี่ แสดงว่าไม่ธรรมดาจริงๆนะครับเนี่ย ฮิ้วววววว....

nitbert กล่าวว่า...

คุณ mymoney เคยดูรถรุ่นนี้อยู่เหมือนกัน แต่เห็นเป็นรถนำเข้า กลัวอะไหล่แพง หรือไม่ก็ต้องรอสั่งอะไหล่นาน... ตอนนี้แก่แล้ว เวลาซื้อรถ เน้น practical ไว้ก่อน :)

ไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ ที่จะออกรถใหม่ตอนนี้ เพราะตั้งท่าจะออกรถใหม่อยู่เรื่อย ผ่านมา 3 ปีก็ยังขับไอ้แก่คันเดิม (ฮา!) ตอนนี้ชักจะเริ่มคิดจริงๆ จังๆ เพราะมันชักจะออกอาการไม่ค่อยดีมากขึ้นๆ (10 ปีแล้วหงะ) เวลาเอารถเข้าอู่ทีก็ลำบาก ฝนเดี๋ยวนี้มันก็ตกไม่เป็นฤดู โดนธรรมชาติเอาคืน สงสัยต้องถอยรถสูงๆ มาลุยน้ำท่วม!!! (แต่ผ่านไปอีก 1 ปี nitbert ก็อาจจะยังขับไอ้แก่อยู่เหมือนเดิม -_-")

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เข้าใจปัญหาคุณ nitbert ดีเลยครับ เพราะผมก็เจอเองอยู่เหมือนกัน รถผมตอนนี้อายุ 10 ปีแล้ว เดี๋ยวเสียนั่น เดี๋ยวเจ๊งนี่ แค่ปีนี้ก็จ่ายค่าซ่อมไปหลายแล้วเหมือนกันนะ แต่ก็คิดว่าคงไม่เปลี่ยนล่ะครับ ถ้ามันไม่ไหวจริงๆจะใช้วิธีเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ประหยัดกว่าเยอะ (ช่วยโลกด้วยนะครับ เพราะเราเอาเครื่องยนต์มือสองจากญี่ปุ่นมารีไซเคิลใช้ต่อ) ดีกว่ากลับมาเป็นหนี้ (ยังทำใจไม่ได้) หรือต้องทนเห็นยอดเงินเก็บลดลง (นี่ก็ทำใจยากเหมือนกัน) เฮ้ออออ...

ถ้าเราไม่ประหยัด แล้วใครจะช่วยเราประหยัดล่ะเว้ยยยยยยยยย...

nitbert กล่าวว่า...

คุณ mymoney เงินเก็บลดลงไปนี๊ดส์นึงคงไม่กระทบกระเทือนบัญชีทรัพย์สินเท่าไหร่หรอกมั้งคะ ที่ยังไม่เปลี่ยน เพราะผบ.ทบ. ยังไม่อนุมัติมากกว่าม้างงง 555

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ว้า...รู้ทัน ไม่มันเลย

nitbert กล่าวว่า...

เอิ๊กๆ ... :)

สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์