วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2550

เมื่อไหร่จะได้เกษียณ

เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนเราส่งลิงก์มาให้ไปทดลองคำนวณเงินออมหลังเกษียณที่ http://www.sec.or.th/th/educate/manage/rmf/cal/section2.php

เมื่อตอนที่เรากำลังจะเริ่มลงทุนในกองทุน เราก็เคยเห็นโปรแกรมช่วยคำนวณแบบนี้ที่เว็บของบางบลจ. อยู่บ้าง แต่ตอนโน้นเราเจอคำถามแรกว่าจะเกษียณที่อายุเท่าไหร่ และคำถามต่อมาว่าหลังเกษียณจะอยู่ไปอีกกี่ปี ก็ไม่ค่อยอยากคิดเท่าไหร่ เพราะฟังดูแล้วรู้สึกเหมือนต้องวางแผนตายไปในตัว แต่หลังๆ นี้เราเริ่มทำใจได้กับการตาย พอเพื่อนบอกลิงก์ก็เลยไปทดลองกรอกเล่นๆ ซะหน่อย

ครั้งแรกเรากรอกไปว่าจะเกษียณตอนอายุ ๕๐ แล้วอยู่ต่ออีก ๒๐ ปี (คิดว่าตายตอน ๗๐ น่าจะกำลังดี อยู่นานไปจะกลายเป็นแก่กะโหลกกะลา) แต่ผลการคำนวณแสดงว่าเงินติดลบอยู่ประมาณ ๒ ล้าน ถ้าเราอยากจะมีชีวิตระเริงอยู่หลังเกษียณ ๒๐ ปี เราจะต้องเถือกทำงานไปอีก ๕ ปี (แต่จะได้ยืดอายุไปอีกหน่อยหนึ่ง ไปตายตอนอายุ ๗๕ ปี) ก็โอเค ถือว่าพอรับได้...

เมื่อวันก่อนเราได้ยินข่าวในทีวี เขาบอกว่าคนสมัยนี้อายุยืนขึ้น โดยเฉลี่ยคนญี่ปุ่นอายุยืนกว่าคนชาติอื่นๆ แล้วเราก็เห็นเขาขึ้นตัวเลขแว้บๆ ว่า ผู้หญิงอายุเฉลี่ย ๘๕ กว่าๆ ผู้ชาย ๗๙ เห็นแล้วตกตะลึงตึงตึง...

ก็ขนาดเราวางแผนว่าจะตายตอนอายุ ๗๕ ปี เรายังต้องทำงานถึงอายุ ๕๕ ปี แล้วนี่ถ้าเราต้องอยู่ไปจนถึง ๘๕ เท่าอายุเฉลี่ยของผู้หญิง จะต้องทำงานไปถึงอายุเท่าไหร่ฟระ คิดแล้วเหนื่อยใจ...

แต่แทนที่จะตั้งใจทำงานเก็บเงิน เราก็ไปกูเกิ้ลหาข้อมูลต่อ ปรากฏว่าไอ้ตัวเลขที่เห็น ๘๕/๗๙ เป็นอายุเฉลี่ยของคนญี่ปุ่นตะหาก ส่วนอายุเฉลี่ยของคนไทยปีที่ผ่านมาคือ ผู้หญิง ๗๔.๙๘ ผู้ชาย ๗๐.๒๔ (ยังไงผู้ชายก็ตายไวกว่าผู้หญิงแฮะ)

เราเห็นแล้วก็โล่งใจไปหน่อยหนึ่ง แต่ก็ยังนิ่งนอนใจไม่ค่อยได้ เพราะดันไปเจอบทความอีกอันหนึ่งที่วิเคราะห์ว่า ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ คนที่มีอายุยืน ก็จะมีโอกาสมีอายุยืนมากขึ้น เช่น คนที่มีอายุได้ถึง ๖๐ ปีในปี ๒๐๐๖ อาจจะมีโอกาสอยู่ได้อีก ๒๐ ปี แต่คนได้ที่มีอายุถึง ๖๐ ปีในปี ๒๐๑๖ อาจจะมีโอกาสอยู่ได้อีก ๓๐ ปี เพราะความก้าวหน้าทางการแพทย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคนรู้จักดูแลตัวเองมากขึ้น

เพราะฉะนั้นอีก ๕ ปีหรือ ๑๐ ปีข้างหน้า เขาอาจจะมาประกาศว่าอายุเฉลี่ยคนไทยเป็น ๘๕ ปีอย่างที่เรากลัวก็ได้

รู้แบบนี้แล้ว สงสัยต้องปรับแผนเกษียณใหม่อีกรอบหนึ่ง เพราะถ้าหากว่าวางแผนเกษียณ (และวางแผนตาย) ไว้ แล้วเกิด “โชคดี” อายุยืนกว่าที่วางแผนขึ้นมา จะกลายเป็น “โชคร้าย” ต้องลำบากทำงานหาเงินตอนแก่อีก จะเซ็งไปกันใหญ่

8 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กินเงินมรดก อยู่ไปได้ถึง 100 ปีนะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เอิกส์ๆๆๆ ขนาดต้องวางแผนตาย ..คิดไม่ออกแฮะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โดยส่วนตัวผมไม่เคยใช้โปรแกรมคำนวณพวกนี้ แต่คำนวณคร่าวๆเอาเองว่าแต่ละเดือนน่าจะใช้เงินสักเท่าไหร่ แล้วแต่ละปีก็บวกเงินเฟ้อเข้าไปตามสมควร

และเนื่องจากรายได้น้อย (รสนิยมต่ำด้วยก็เลยพอไหว) ก็เลยใช้วิธีควบคุมรายจ่ายให้อยู่ในระดับพอเหมาะพอควร แล้วก็ประมาณเอาเองว่า คนบาปหนาอย่างผมน่าจะตายตอนประมาณสัก 65 ก็น่าจะพอแล้ว คำนวณเสร็จสรรพ ได้ตัวเลขมาตัวนึง เป็นเงินที่ผมต้องมีก่อนที่จะเลิกทำงาน ผมก็เอาตัวเลขนั้นตั้งไว้ในใจ (เขียนไว้ใต้หมอนบ้าง ผสมน้ำกินบ้าง)แล้วก้ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินอยู่ทุกวันนี้แหละครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แล้วจะเกษียณไปเพื่ออะไร

nitbert กล่าวว่า...

- เพื่อจะได้ไปหาอะไรอย่างอื่นทำ (งานอื่น?) :)
- เพื่อจะได้นอนเล่นตีพุงอยู่บ้าน
- เพื่อให้ได้ชื่อว่าเกษียณแล้ว
- เพื่อ?? นึกไม่ออกแล้ว... ไม่รู้เหมือนกันแฮะ

ตกลงหลังจากวางแผนเกษียณเสร็จแล้ว ต้องวางแผนว่าจะทำอะไรหลังเกษียณด้วยแฮะ :)

ปล. จริงๆ แล้วไม่ได้อยากเกษียณเท่าไหร่ แต่อยากเป็นอิสระทางการเงินมากกว่า

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

-เพื่อมีเวลาเล่นกับหมามากขึ้น
-เพื่อจะได้นอนอ่านหนังสือสารพัดเล่มที่ซื้อเอาไว้แล้วไม่มีเวลาอ่านเสียที

แค่ 2 ข้อนี้ก็สุดแสนจะแฮปปี้สำหรับผมแล้วล่ะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แล้วที่เป็นจนตายอย่างผมนี่ก็หมดสิทธิ์เกษียณสิครับ

อยากกินบำนาญอ่ะ ท่าจะอร่อย

nitbert กล่าวว่า...

คุณ golb เป็นอะไรจนตายคะ :P

เห็นด้วย... ว่าบำนาญท่าทางจะอร่อย :)

สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์